ข่าวบันเทิง

เส้นทางสายดนตรีของบอดี้สแลม จาก "ละอ่อน" สู่วงร็อคอันดับ 1 ของไทย

          หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าวงร็อคระดับแนวหน้าของเมืองไทยอย่างวง บอดี้สแลม กว่าเขาจะเป็นที่รู้จักจนถึงทุกวันนี้ได้เส้นทางของเขานั้นไม่ได้มาง่ายๆอย่างที่ทุกคนคิด แล้วเส้นทางวงดนตรีของวงบอดี้สแลม เป็นยังไงเราตามไปดูกันเลย ครับ !!!!!!!!

ละอ่อน การเดินทางตามฝันในเส้นทางสายดนตรี


 
          ละอ่อนเกิดจากการรวมตัวของของนักเรียน 6 คน จากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย เพื่อเข้าไปแข่งขัน ในรายการประกวดดนตรีที่เรียกว่าเป็นตำนานเลยก็ว่าได้ เพราะแจ้งเกิดศิลปินดังๆมาแล้วหลายคนนั้นก็คือรายการ Hotwave music awards ซึ่งในปีนั้นจัดขึ้นเป็นครั้งแรก และในปีนั้นเองวงละอ่อนก็ได้รางวัลชนะเลิศในครั้งนั้น และได้เป็นศิลปินในสังกัด มิวสิค บั๊กส์ และออกอัลบั้มแรกในชื่อ ละอ่อน โดยเพลงที่ได้รับความนิยมคือเพลง "ได้หรือเปล่า" และ "นิดนึงพอ" โดยละอ่อนมีอัลบั้ม 2 อัลบั้ม ก่อนที่สมาชิกจะแยกย้ายกันไป 

 
วง "ละอ่อนกับการประกวด Hotwave Music Awards" ครั้งที่ 1
Credit video From AtimeOnline

2545 ปฐมบท ของ Bodyslam 

          หลังจาก วงละอ่อน ได้แยกย้ายกันไป ตูน อาทิวราห์ คงมาลัย นักร้องนำของวง ได้กลับมาสนใจเล่นดนตรีและเริ่มแต่งเพลงอีกครั้ง จากนั้นก็ได้ ปิ๊ด ธนดล ช้างเสวก มือเบส และ เภา รัฐพล พรรณเชษฐ์ มือกีต้าร์ กลับมาช่วยทำงานเพลงในรูปแบบใหม่ และเปลี่ยนชื่อวงเป็น "บอดี้สแลม" ซึ่งความหมายก็คือการทุ่มสุดตัว ในการทำเพลงนั่นเอง โดยวงบอดี้สแลมเซ็นสัญญากับค่ายมิวสิก บั๊กส์ และ ได้ออกอัลบั้ม ในชื่อ "Bodyslam" และประสบความสำเร็จ มีเพลงฮิตที่ร้องกันได้ทั่วบ้านทั่วเมือง อย่าง "งมงาย" "ย้ำ" "สักวันฉันจะดีพอ" และได้ออกอัลบั้มที่ 2 ที่ชื่อว่า "Drive" ในปีถัดมาซึ่งประสบความสำเร็จไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นเพลง "งมงาย" "ย้ำ" "สักวันฉันจะดีพอ" และได้มีคอนเสิร์ต HOTWAVE LIVE: BODYSLAM MAXIMUM LIVE จัด ณ หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) ซึ่งเป็นคอนเสิร์ต ครั้งแรกของวง
จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่กับการเซ็นสัญญาค่ายยักษ์

          ถือว่าเป็นปีที่ Bodyslam ประสบความสำเร็จมากเลยทีเดียวเมื่อได้มาเซ็นสัญญากับค่ายเพลงยักษ์ใหญ่อย่าง Genie records ในเครือ GMM Grammy นอกจากนั้นวงก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงสมาชิก นั่นก็คือ เภา รัฐพล พรรณเชษฐ์ ได้ออกไปทำแนวเพลงของตัวเอง แต่ได้สมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นมา นั่นก็คือ สุชัฒติ จั่นอี๊ด หรือ ชัด บอดีสแลมซึ่งในอดีตเป็นนักดนตรีแบ็คอัพของวง นอกจากนั้นยังได้ ยอด ธนชัย ตันตระกูล มาเป็นมือกีต้าร์คนใหม่ของวง สำหรับผู้เขียนแล้วชอบอัลบั้มนี้มากที่สุดเพราะ มีเพลงดังๆ มากมายฟังได้เกือบทุกเพลง ไม่ว่าจะเป็น ความเชื่อ ขอบฟ้า ความรักทำให้คนตาบอด พูดในใจ เป็นต้น และ เป็นอัลบั้มที่บอดี้สแลมก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง จนเด็กวัยรุ่นทั่วบ้านทั่วเมืองแกะเพลง ตั้งวงดนตรีเล่นตามกันเลยทีเดียว หลังจากนั้นในปี 2550 ก็ได้ออกอัลบั้ม Save My life ซึ่งประสบความสำเร็จไม่น้อยเช่นกัน
บอดี้สแลมไลฟ์อินคราม และ ปรากฏการณ์ ดัม-มะ-ชา-ติ 
          


 
          สำหรับตัวผมแล้ววงนี้เป็นวงที่สร้าง ปรากฏการณ์ ให้กับดนตรีไทยมากมายไม่ว่าจะเป็นการ ฟีเจอริ่ง กับศิลปินข้ามแนวอย่างเพื่อเชื่อวิต อย่าง แอ๊ด คาราบาว ในเพลง ความเชื่อ หรือจะเป็นศิลปิน หมอลำ อย่าง ศิริพร อำไรพง ในเพลงคิดฮอด ในอัลบั้ม คราม ซึ่งนอกจากนั้นแล้ว บอดี้สแลมยังเป็นวงดนตรีที่ได้เล่นคอนเสิร์ตใหญ่ที่เรียกว่า บอดี้สแลมไลฟ์อินคราม ที่ราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 ด้วยผู้ชมมากกว่า 65,000 คน ซึ่งผมมองว่ามีไม่กี่วงในประเทศไทยที่จะทำแบบนี้ได้

          นอกจากบอดี้สแลมจะได้จัดคอนเสิร์ตใหญ่ แล้ว เขายังได้สร้าง ปรากฏการณ์ ในการทัวร์คอนเสิร์ตทั้วประเทศ หรือที่เรียกกันว่า ปรากฏการณ์ ดัม-มะ-ชา-ติ  ซึ่งเนื้อหาเพลงพูดถึงเรื่องชีวิต และถึงแม้ ปรากฏการณ์ ดัม-มะ-ชา-ติ จะมีปัญหาจนไม่สามารถทัวร์ได้ทั้วประเทศก็ตาม แต่ผมเชื่อว่าวงนี้สามารถก้าวผ่านอุปสรรคตรงนี้ไปได้ และเติบโตต่อไปในเส้นทางสายดนตรี

          ในอนาคตผมเชื่อว่า บอดี้สแลมก็ยังไม่หยุดที่จะสร้างสีสรรค์และสิ่งใหม่ๆให้วงการดนตรีในเมืองไทย และไม่ว่าแนวทางของเพลงจะเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหนผมก็เชื่อว่าบอดี้แสลมก็ยังเป็นขวัญใจของวัยรุ่นเสมอไป





        



 

 

Credit.    : written by Chokchai ICT

About HOTNEWS : อัพเดทข่าวฮอต ประเด็นร้อน ในโลกโซเชียล ตลอด 24 ชม.

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.